การอุทธรณ์ ฎีกา เป็นการแสวงหาความยุติธรรมในชั้นศาลสูง คู่ความทุกฝ่ายต้องการให้คดีของตนเข้าสู่การพิจารณาพิพากษาในชั้นศาลสูงสุดเป็นหลัก ซึ่งเดิมทีนั้น สามารถกระทำได้ เนื่องจากฏหมายบัญญัติเป็นเงื่อนไขหรือแนวทางในการอุทธรณ์ฎีกา "ในลักษณะระบบสิทธิ" กล่าวคือ หากกรณีเป็นไปตามเกณฑ์ที่กฎหมายบัญญัติไว้แล้ว คดีก็สามารถเข้าสู่การพิจารณาในชั้นศาลสูงได้ อย่างไรก็ตาม ต่อมาได้มีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงกฎหมายในส่วนของการฎีกา คือ "เปลี่ยนเป็นระบบการอนุญาต" กล่าวคือ คดีจะขึ้นสู่การพิจารณาพิพากษาในชั้นศาลฎีกาได้นั้นต้องได้รับอนุญาตจากศาลฎีกาก่อน โดยกฎหมายได้กำหนดไว้ในกรณีของคดีแพ่ง และคดีพิเศษอื่น ๆ อาทิ คดียาเสพติด คดีค้ามนุษย์ คดีผู้บริโภค คดีทุจริตและประพฤดิมิชอบ เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว ก็ส่งผลให้การดำเนินการต่าง ๆ เกี่ยวกับการยื่นฎีกาเปลี่ยนไป

    ผู้เขียนจึงได้ศึกษาทำความเข้าใจและเรียบเรียงขึ้น ในส่วนของการขออนุญาดฎีกาในคดีแพ่ง คดียาเสพติด และคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ซึ่งก็อาจจะไม่ละเอียดในส่วนของเนื้อหานัก เพราะเป็นการกล่าวถึงในทางปฏิบัติและส่วนต่าง ๆ ที่น่าสนใจ แต่ก็น่าจะเป็นประโยชน์ในการใช้เป็นพื้นฐานในการดำเนินการต่าง ๆ เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว

การขออนุญาตฎีกาในคดีแพ่ง
- คำร้อง คำสั่ง
- ตัวอย่างแนววินิจฉัยของศาลฎีกาเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน ในส่วนที่เกี่ยวกับวิธีพิจารณาความ
- ข้อกำหนดของประธานศาลฎีกา ว่าด้วยการขออนุญาดฎีกาในคดีแพ่ง พ.ศ.2558

การขออนุญาตฎีกาในคดียาเสพติด
- คำขอ คำสั่ง
- ตัวอย่างแนววินิจฉัยของศาลฎีกาเกี่ยวกับการฎีกา
- ระเบียบที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการยื่นคำขอ การพิจารณา และมีคำสั่งอนุญาต หรือไม่อนุญาตให้ฎีกาในคดีความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พ.ศ. 2551

การขออนุญาตฎีกาในคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ
- คำขอ คำสั่ง
- ตัวอย่างคำสั่งอนุญาต
- ข้อบังคับของประธานศาลฎีกา ว่าด้วยวิธีการดำเนินคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ พ.ศ.2559