การค้ำประกัน โดยทั่วไปแล้วจะเป็นการที่บุคคลหนึ่งตกลงชำระหนี้แทนลูกหนี้เมื่อลูกหนี้ไม่ชำระหนี้ อย่างไรก็ตาม นอกเหนือเรื่องดังกล่าวแล้ว กฎหมายยังได้กำหนดรายละเอียดเกี่ยวกับสิทธิและหน้าที่ของเจ้าหนี้, ลูกหนี้ และผู้ค้ำประกันในการค้ำประกันด้วย ทั้งในเรื่องขั้นตอนการเรียกร้องให้ชำระหนี้, สิทธิของผู้ค้ำประกันในการปฏิเสธไม่ชำระหนี้, สิทธิของผู้ค้ำประกันในการไล่เบี้ยจากลูกหนี้ และเหตุการณ์ที่ทำให้ผู้ค้ำประกันไม่ต้องรับผิดตามสัญญาค้ำประกัน แม้ลูกหนี้ยังมีหนี้อยู่ก็ตาม

ความสำคัญและลักษณะทั่วไปของสัญญาค้ำประกัน
การทำสัญญาค้ำประกัน
ขอบเขตความรับผิดของผู้ค้ำประกัน
การเรียกร้องผู้ค้ำประกัน
การสิ้นสุดของการค้ำประกัน
อายุความ

การค้ำประกัน คือ เครื่องมือสร้างความเชื่อมั่นให้แก่เจ้าหนี้ว่า หากลูกหนี้ไม่ชำระหนี้ จะมีบุคคลอื่นเข้ามาชำระหนี้แทน และด้วยประโยชน์ในการสร้างความเชื่อมั่นนี้ ทำให้การค้ำประกันถูกใช้เป็นหลักประกันสำหรับหนี้หลายประเภท เช่น การกู้ยืมเงิน, การเช่าซื้อ, การซื้อขาย หรือการรับจ้างเข้าทำงาน เป็นต้น พวกเราจึงคุ้นเคยกับการค้ำประกันอยู่บ้าง ไม่ว่าจากการได้ยินคนพูดถึง, การทำงาน, การเป็นลูกหนี้หรือเจ้าหนี้ หรือการเป็นผู้ค้ำประกันเอง
อย่างไรก็ตาม แม้หลายคนจะคุ้นเคยกับการค้ำประกัน แต่ส่วนใหญ่จะทราบเพียงว่า การค้ำประกันคือการตกลงชำระหนี้แทนลูกหนี้ที่ไม่ชำระหนี้ โดยไม่ทราบว่า การค้ำประกันมีรายละเอียดที่สำคัญหลายเรื่อง ทั้งเรื่องวิธีการทำสัญญาค้ำประกัน รายละเอียดที่ต้องระบุในสัญญาค้ำประกัน,การเรียกร้องผู้ค้ำประกัน, สิทธิของผู้ค้ำประกัน หรือขอบเขตความรับผิดชอบของผู้ค้ำประกัน ซึ่งหากผู้ที่เกี่ยวข้องกับการค้ำประกันไม่มีความรู้เบื้องต้นในเรื่องดังกล่าว ก็อาจปฏิบัติผิดเงื่อนไขของกฎหมาย, เสียประโยชน์ที่ควรได้รับ หรืออาจถูกเอารัดเอาเปรียบได้
ดังนั้น ผู้เขียนจึงได้เขียนหนังสือเล่มนี้ขึ้น เพื่อให้ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับการค้ำประกัน โดยมีการใช้ภาพประกอบเนื้อหา และใช้ภาษาทั่ว ๆ ไป ในการอธิบาย ซึ่งจะช่วยให้ผู้อ่านสามารถทำความเข้าใจเบื้องต้นเกี่ยวกับการค้ำประกัน และสามารถนำไปใช้ประโยชน์ในการพิจารณาเกี่ยวกับการทำสัญญาค้ำประกันต่อไปได้