"บ้า" คำคำนี้ถูกใช้อย่างแนบเนียนในฐานะความรู้จิตเวชสมัยใหม่เพื่อ ตีตราและกักขังคนผู้ซึ่งไม่เป็นไปตาม "ความปกติ" ที่รัฐและสังคมนับจาก ยุคศิวิไลซ์จนถึงยุคพัฒนาสร้างขึ้นมา หนึ่งในเหยื่ออันแสนโอชาของมันคือ "ผู้หญิง" เพศสภาพซึ่งเลือนหายไร้เสียงมานานในหน้าประวัติศาสตร์ไทย

    ประวัติศาสตร์คือ ศาสตร์ของมนุษย์ที่กระทำการโดยมนุษย์ จึงเป็นเรื่องที่สะท้อนความเป็นมนุษย์โดยแท้ออกมาให้เห็นอยู่มาก ทั้งความรัก โลภ โกรธ หลง อำนาจ ตัณหา อคติ และความลำเอียงไม่เป็นกลางต่าง ๆ นานา สิ่งที่เกิดจากความลำเอียงและอคติ ทำให้เกิดการหายไปของเนื้อหาประวัติศาสตร์ ซึ่งมีหลายเรื่องที่เราแทบไม่ได้รับรู้เลย ตั้งแต่เรื่องราวคนธรรมดาสามัญ คนจน อาชญากร รวมถึงคนชายขอบต่าง ๆ และหนึ่งในนั้นคือ "ผู้หญิง" ที่ไม่มีเรื่องราวทางประวัติศาสตร์เท่าผู้ชาย และไม่มีตัวตนกระทำการทางประวัติศาสตร์ หรือตัวละครทางประวัติศาสตร์ที่เป็นผู้หญิงให้เห็นนัก

    หนังสือเล่มนี้จึงเป็นการเปิดพื้นที่ให้แก่ผู้หญิงได้พูด พร้อมเปิดโอกาสให้หญิงบ้าได้พูดและถูกพูดถึงเป็นหลัก ที่บอกว่าถูกพูดถึงนั้น เพราะวิธีการศึกษาในหนังสือเล่มนี้ไม่ได้มุ่งไปเสนอเสียงของหญิงบ้าโดยตรง แต่มองอยู่ในโครงสร้างของอำนาจความรู้ทางการแพทย์ ที่ปฏิบัติการต่อสังคมไทยในยุคการเปลี่ยนแปลงทางการแพทย์สมัยใหม่ที่สำคัญยุคหนึ่งคือ ยุคสงครามเย็น ซึ่งไทยรับอิทธิพลความรู้ทางการแพทย์จากสหรัฐอเมริกา

1. บทนำ ผู้หญิงกับความบ้า : การศึกษาประวัติศาสตร์ว่าด้วยผู้หญิงกับการเจ็บป่วยทางจิต
2. "ความบ้า" และจิตเวชในสังคมไทย ทศวรรษ 2430-2490
3. ร่างกายและการเจ็บป่วยทางจิตของผู้หญิงในสังคมไทย ก่อนทศวรรษ 2500
4. สงครามเย็นกับการพัฒนาองค์ความรู้จิตเวชสมัยใหม่ยุคพัฒนา
5. ผู้หญิงกับความผิดปกติทางจิตใจในความรู้จิตเวชไทยสมัยใหม่ ทศวรรษ 2500-2520
6. ความรักความอบอุ่นในครอบครัว : ปัญหาทางจิตใจของเด็กที่เชื่อมโยงอยู่กับผู้หญิง ทศวรรษ 2500-2520
7. สุขภาพจิตผู้หญิง : หัวใจของสุขภาพจิตเด็กและสุขภาพจิตครอบครัว ทศวรรษ 2500-2520