นิตยสารแมกเก็ตติ้ง (Magketing) ฉบับ 16 นำเสนอเรื่องนำฉบับ JAPAN'S RETAIL CAPITAL เมื่อประเทศญี่ปุ่นต้องเผชิญกับวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่ในหลายด้านไม่ว่าจะเป็นการเติบโตของเศรษฐกิจภายในประเทศที่ชะลอตัวต่อเนื่อง ปัญหาเงินฝืด และหนี้สาธารณะที่อยู่ในระดับสูงกว่าสองเท่าของขนาดเศรษฐกิจ โดยอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจญี่ปุ่นในไตรมาสที่ 1 ปี 2559 ขยายตัวได้ที่ระดับ 1.7%   

ทั้งนี้กองทุนการเงินระหว่างประเทศหรือ IMFยัง มองว่าเศรษฐกิจญี่ปุ่นในปี 2559 จะเติบโตเพียง 0.5% และจะหดตัว 0.1% ในปี 2560รวมถึงปัญหาด้านกำลังซื้อของผู้บริโภคในประเทศที่อิ่มตัว

สถานการณ์ของญี่ปุ่นเป็นวิกฤตการณ์สะสมและลุกลามเป็นวงกว้างมากขึ้นทุกขณะ ปัจจัยทุกด้านเพิ่มแรงกดดันให้ทุนญี่ปุ่นต้องแสวงหาโอกาสใหม่เพื่อรักษาฐานที่มั่นทางธุรกิจ ขณะเดียวกันยังต้องร่วมแรงร่วมใจเพื่อประคับประคองให้เศรษฐกิจในประเทศสามารถขับเคลื่อนไปได้

การเร่งขยายฐานการลงทุนออกนอกประเทศจึงถูกกำหนดเป็นยุทธศาสตร์ฝ่าวิกฤติชาติ   ซึ่งโฟกัสหลักคือภูมิภาคเอเชียโดยเฉพาะประเทศไทย เนื่องจากเป็นพื้นที่ภูมิศาสตร์ที่เป็นจุดกลางเชื่อมต่อในหลายประเทศในตลาดอาเซียน   ขณะเดียวกันในประเทศไทยยังมีโอกาสจากแนวโน้มการขยายตัวของภาคธุรกิจอีกหลายแขนงที่เปิดกว้าง

อย่างไรก็ตามความยิ่งใหญ่ของประเทศญี่ปุ่นในฐานะชาติผู้นำอุตสาหกรรมการผลิตนั้นถือว่าเป็นภาพในอดีตไปแล้วเพราะได้พ่ายแพ้ให้กับเกาหลีใต้และจีนไปอย่างราบคาบ ทว่าสิ่งที่ญี่ปุ่นยังสามารถแข่งขันได้ในโลกธุรกิจคือภาคบริการ เช่น ร้านอาหาร   บริการทางการเงิน และค้าปลีก