สมเด็จพระนเรศวรกับพระมหาอุปราชาสู้กัน ไม่มีใครได้เปรียบ จึงเจรจาต่อกันว่าตายกันมากพอแล้ว สู้กันตัวต่อตัวดีกว่า ช้างอุปราชากับช้างพระนเรศวรต่างเป็นช้างศึกติดอาวุธเพียบทั้งสองเชือกหันหน้าเข้าหากัน มีธงใหญ่กั้นกลางมองอีกฝ่ายไม่เห็น ขณะกำลังรอจังหวะกันอยู่ นิมิตก็บังเกิดกับพระนเรศวร เมฆปรากฏเป็นรูปฉัตรกว้างสี่คิวบิกรัศมีโชติช่วงลักษณะคล้ายผลมะงั่วเป็นวงกลมบนท้องฟ้า นิมิตเหล่านี้เห็นกันทั่ว
    พอถึงเวลา โซ่ช้างก็ได้รับการปลดออก ธงใหญ่ที่บังอยู่ก็ฟาดลง ทั้งสองพระองค์ทรงกระตุ้นช้างเข้าหากัน...

    ช้างพระนเรศวรมีกำลังน้อยกว่า จึงถอยแล้วถอยอีก อุปราชาย่ามพระทัยพุ่งเข้าแทง และตวัดด้วยดาบด้ามยาว พระนเรศวรหลบทันและทรงโต้ตอบ ครั้งหนึ่งอุปราชาฟันถูกพระมาลาของพระองค์ขาดไปสองนิ้ว

    ทันใดนั้น ช้างพระนเรศวรก็เอาเท้ายันจอมปลวกที่มีต้นพุทราสุกเหลืองอร่ามแล้วออกแรงดันอย่างเด็ดเดี่ยว แทงช้างอุปราชาจมโคนงาทรุลง พระนเรศวรทรงกระตุ้นช้างอย่างเต็มที่ แล้วทรงใช้ดาบด้ามยาวฟันอุปราชาฉับเดียวด่าวดิ้นสิ้นพระชนม์กับคอช้าง...

- ปริศนาสงครามยุทธหุตถี
- วิบากกรรมของพม่ามหาประจิมมิตร
- นันทบุเรง สูญเสียพระมหาอุปราชาและสังหารพระสุพรรณกัลยา
- เจ้าฟ้าดำ - พระองค์ดำ พระนเรศ
- สมเด็จพระเอกาทศรถ
- พระสุพรรณกัลยา