ตั้งแต่มีการนำพระสมเด็จวัดระฆัง พระสมเด็จวัดบางขุนพรหม พระสมเด็จวัดเกศไชโย และพระสมเด็จพระอรหัง มาบูชาติดตัว และมีการเช่าหากันในเวลาต่อมา ยังไม่มีใครเคยทราบกันมาก่อนเลยว่าพระสมเด็จที่กล่าวมาแล้วนั้นมีหลักการออกแบบเช่นใด จึงทำให้มีการอุปโลกน์พระเครื่องของพระสมเด็จพุฒาจารย์โต กันแบบผิดๆถูกเรื่อยมา แท้จริงแล้วการสร้างพระเครื่องของท่านได้นำหลักการออกแบบที่เป็นสากลที่เรียกว่า ภาพ 3 มิติ แบบ perspective ภาพ 3 มิติ พบครั้งแรกในยุค กรีก โบราณ ราว 750 ปี ก่อนคริสตศักราช และพัฒนา มาใช้ในเรื่องของการเขียนแบบ ทางพระพุทธศาสนาได้นำศิลปการออกแบบมาใช้ตั้งแต่ ยุคทวาระวดีเรื่อยมาดังปรากฏ ลวดลายในถาวรวัตถุต่าง และพระเครื่อง เช่นพระรอด วัดมหาวัน พระซุ้มกอ พระผงสุพรรณ พระนางพญา พระสมเด็จฯลฯ นอกจากนี้ ยังปรากฏการออกแบบลักษณะดังกล่าวกับพระเครื่องยอดนิยมอื่ีนๆอีก เช่นหล่อลอยองค์ หลวงพ่อเงินวัดบางคลาน หลวงพ่อเดิมวัดหนองโพ ลักษณะแบบเฉพาะ ของภาพ 3 มิติแบบ perspective จึงทำให้สามารถจับพิรุธพระเครื่องที่นำมาอุปโลกน์เช่าหากันในเวลาต่อมาได้ไม่ยาก
เนื่องจากของจริงๆนั้นได้สูญหายไปจนเกือบจะหมดสิ้นจึงมีการแอบสร้างกันขึ้นมาภายหลังและนำมาเล่นหากันต่อมา จนปัจจุบันได้กลายเป็นของจริงโดยปริยาย ส่วนของจริงๆดังเดิมนั้นส่วนใหญ่ได้ตกหล่นจมดินตามทุ่งนาในแม่น้ำลำคลองเนื่องจากการเดินทางในสมัยก่อนค่อนข้างลำบาก สิ่งที่สำคัญที่ท่านจะต้องเรียนรู้ คือ หลักการเขียนแบบ การอ่านแบบ ภาพ 3 มิติ แบบ perspective ให้ได้เสียก่อน เมื่อนั้น ท่านจะรู้ได้เองเฉพาะตน ว่าพระเครื่องนั้นมีแบบพิมพ์ที่ถูกต้องหรือผิดแบบตามหลักการออกแบบหรือไม่อย่างไร เหตุก็เพราะว่า ของปลอมไม่ได้ทำตามหลักการออกแบบนั้นเอง
เป็นเอกสารที่สรุปมาจากงานวิจัย ในข้อชื่อเรื่อง แบบภาพ 3มิติ แบบ perspective กับงานศิลป์พุทธลักษณ์ไทย
รหัสสินค้า | : 5522840178299 (PDF) 235 หน้า |
ชนิดกระดาษ |