ด้วยแรงศรัทธาที่มีต่องานศิลปะ เขาถึงกับออกจากอาชีพนายธนาคารมายืดอาชีพจิตรกรเพียงอย่างเดียว เขาย่อมไม่อาจหารายได้เพื่อเลี้ยงดูครอบครัวได้เหมือนเช่นเคย ภรรยาและลูกทั้ง 5 คนจึงไม่อาจร่วมฝาฟันกับ "โกแกง" บนถนนแห่งชีวิตที่เขาเลือกได้อีกต่อไป โกแกงมุ่งหน้าออกวาดภาพ แสวงหาแนวทางเพื่อออกจากกรอบและกฎต่าง ๆ ในทฤษฎีทางศิลปะ แหวกแนวทางเดิมที่เคยทำกันมา ค้นหาและสร้างสรรค์ศิลปะในรูปแบบของเขาเอง ทั้งที่รู้แน่แก่ใจว่า คนเราจะไปให้ถึงฝั่งฝันนั้น หนทางมิได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ

    โกแกงเชื่อว่าแรงบันดาลใจของงานศิลปะเกิดขึ้นจากธรรมชาติ เขาจึงชอบสร้างสรรค์ผลงานกลางแจ้ง สีสันสดใสของสรรพสิ่งกลางแดดจ้าเป็นสิ่งเร้าใจสำหรับเขา อีกทั้งศิลปะพื้นบ้าน (Folk Art) ก็เป็นแรงบันดาลใจที่เต็มไปด้วยมนต์ขลัง โกแกงจึงตัดสินใจไปใช้ชีวิตที่ตาฮิด (Tahiti) และเกาะมาร์เคซัส (Marquesas) ที่นี่เองที่เขาพัฒนาฝีมือสร้างสรรค์งานศิลปะ ออกมาให้โลกชื่นชมเป็นจำนวนมาก ภาพของเขามักเต็มไปด้วยสีสันสดจัด เต็มไปด้วยเรื่องราวและวิถีชีวิตเรียบง่ายของชาวเกาะ จนนักทฤษฎีศิลปะสมัยต่อมาเรียกสไตล์ศิลปะแบบนี้ว่า Synthetism

    "วิถีเถื่อน" คือนวนิยายชีวิตของ "ปอล โกแกง" เป็นเรื่องราวแห่งการก้าวเดินบนถนนชีวิตด้วยแรงศรัทธาศิลปะที่เขารัก ต้องต่อสู้กับความยากแค้นลำเค็ญและเจ็บปวด กระนั้นก็อดทนทำเพื่องานศิลปะโดยไม่มีโอกาสแม้แต่จะรู้ว่าผลงานของเขานั้น ต่อมาจะกลายเป็นงานชิ้นเอกของโลก

ภาค 1 ครอบครัวร้าวสลาย
ภาค 2 มิตรภาพรันทด กับวินเซนท์ แวนโกะห์
ภาค 3 ชีวิตขบถที่หมู่เกาะตาฮิติ
ภาค 4 ลาก่อน...ปารีส
ภาค 5 ฝากไว้ในแผ่นดิน