ลด 20%

E-Book นักเขียนอิสระ ลดสูงสุด 70%(Digital)

อ่านต่อ

       ในการทำนายไพ่ทาโรต์นั้น นอกเหนือจากทักษะการหยิบไพ่แต่ละใบขึ้นมาแล้วอ่านความหมายตามภาพหน้าไพ่แล้ว สิ่งที่สำคัญเพิ่มมากขึ้นสำหรับนักพยากรณ์มืออาชีพก็คือ การเชื่อมโยงความหมายไพ่เชิงลึก การวิเคราะห์ธาตุไพ่ และความเป็นไปได้ในการทำนายที่เชื่อมโยงกันระหว่างไพ่แต่ละหมวดหมู่ เช่น ไพ่ดาบในตำแหน่งที่แตกต่างกัน มักจะส่งผลกับบางเรื่องที่เชื่อมโยงกันเสมอ และในการวางผังทำนายให้กับลูกดวงแต่ละครั้ง หมอดูไพ่ทาโรต์ระดับสูง จะสามารถเชื่อมโยงความหมายไพ่ในแต่ละผัง มาสรุปใจความสำคัญให้กับลูกดวงได้ด้วยว่า ความน่าจะเป็นในบางเรื่อง หรือความกระจ่างจากการเปิดไพ่ที่ซับซ้อนมากขึ้น สามารถถอดความออกมาเป็นเรื่องราวอย่างไรได้บ้าง ซึ่งนั่นคือเหตุผลสำคัญที่ท่านผู้อ่านจะได้เรียนรู้จากตำราเล่มนี้
ดังนั้น หนังสือ “ศาสตร์ทำนายไพ่ยิปซีระดับสูง” จึงไม่เหมาะกับผู้ที่ไม่มีพื้นฐานความรู้ในการทำนายไพ่ แต่ควรอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ทำนายจนชำนาญอยู่แล้ว หรือเป็นนักพยากรณ์มืออาชีพ ที่ต้องการเสริมทักษะ หรือทำความเข้าใจเพิ่มเติมในเรื่องของการอ่านไพ่ การเชื่อมโยงพลังงาน เรื่องของการน้อมนำจิตวิญญาณ การใช้จิตวิทยา การแสวงหาทางออกที่ดีที่สุดสำหรับผู้ที่รับคำทำนายของคุณ หรือลูกดวงของคุณ ดังเช่นที่ผู้เขียนเคยกล่าวบ่อยครั้งกับลูกศิษย์ในคอร์สสอนออนไลน์ในการทำนายไพ่ทาโรต์ ว่า“การเรียนรู้ของนักพยากรณ์ทุกศาสตร์ทุกวิชานั้น เป็นการเรียนรู้ที่ไม่มีวันสิ้นสุด ไม่มีคำว่าจบหลักสูตรอย่างแท้จริง” …
       หลายคนก่อนตัดสินใจลงทะเบียนเรียน จะตั้งคำถามว่า “เรียนกี่วันจบคะอาจารย์, เรียนกี่ชั่วโมงสามารถนำไปทำเป็นอาชีพได้คะ, ไม่ทราบว่าออกใบประกาศนียบัตรให้ด้วยหรือเปล่าคะ”   ซึ่งผู้เขียนเองจะตอบไปเสมอว่า การเรียนรู้ของแต่ละคนไม่เหมือนกัน มันก็เหมือนกับนักเรียนในโรงเรียน ที่สอบไล่แล้วได้เกรดเฉลี่ยไม่เท่ากัน แต่แน่นอนครับว่า มาตรฐานการสำเร็จการศึกษาย่อมมีตัวชี้วัดในสถานศึกษาทุกแห่ง แต่การเรียนรู้ศาสตร์พยากรณ์นั้น เราจะใช้เกณฑ์อะไรชี้วัดในการสำเร็จวิชา สามารถนำไปทำนายเป็นหมอดูอาชีพได้ เพราะต่อให้คุณมีใบประกาศนียบัตร ก็ไม่ได้หมายความว่าคุณจะเป็นหมอดูที่ทำนายแม่นยำ หรือให้คำปรึกษาที่ดี เหมาะสม หรือคำปรึกษาที่สมควรแล้วโดยจิตสำนึกของหมอดู
ดังนั้น ถึงแม้ว่าเราจะเข้าใจหลักวิชาการวางผังไพ่ การจับความหมายในตำแหน่งหน้าที่ประจำผัง หรือแม้กระทั่งการสื่อสารเพื่อการทำนายอย่างคล่องแคล่วแล้วก็ตาม ก็ไม่ได้หมายความว่าเราท่านจบหลักสูตรการทำนายอย่างแท้จริง เพราะยิ่งประสบการณ์ในการอ่านนิสัยใจคอผู้คน และทำนายทายทักอย่างตรงจริตผู้คนนั้น ทำได้ยากยิ่งกว่าการเรียนรู้แนวทางเพื่อปฏิบัติที่สามารถทำได้ทั่วไป ผู้ที่ใฝ่รู้และต้องการพัฒนาการทำนายของตนเองมักจะเป็นนักจดบันทึกตัวยง และจะเป็นผู้ที่สังเกตพฤติกรรมของผู้คน จนสามารถถามตอบในสิ่งที่เจ้าชะตาต้องการรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และไม่ให้ส่งผลเสียต่อตนเองมากที่สุด
       หมอดูบางคน จะมั่นใจในทักษะที่เรียนรู้ และชื่นชอบที่จะฟันธงในทุกคำถาม และพยายามตอบให้ได้ทุกคำถามที่ลูกดวงต้องการคำตอบ ซึ่งในบางคำถาม ก็เป็นเรื่องที่เกินกว่าการพยากรณ์จะเยียวยาได้ แต่ถึงกระนั้น…
หมอดูผู้มีจิตวิญญาณของการทำนายอย่างแรงกล้า ก็จะพยายามตอบให้ได้ทุกสิ่งที่เขาถามมาเข้าไปอีก ซึ่งวิธีการเหล่านี้อาจจะไม่เหมาะสมในสิ่งที่ควร หรือการทำนายที่ดีเสมอไป การแยกแยะองค์ประกอบเรื่องที่ควรตอบหรือไม่ควรตอบไม่ได้ จะนำพาให้นักพยากรณ์หรือหมอดูอาชีพหลงทิศหลงทาง
       ดังนั้นแล้ว การศึกษาศาสตร์พยากรณ์ชั้นสูง จึงเป็นเรื่องสำคัญที่เราท่านควรพิจารณาร่วมกันว่า บางอย่างก่อนที่เราจะบอกจะกล่าวออกไปนั้น เป็นสิ่งที่ควรทำนาย หรือไม่ควรทำนาย และที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ ผู้เขียนปลงใจ ที่จะบอกแก่นักพยากรณ์อาชีพทุกคนว่า “เราไม่ควรใช้คำว่าจบหลักสูตร หรือนำเอาใบรับรอง หรือใบประกาศนียบัตรใดที่สถาบันไหนออกให้ก็ตาม มาเป็นเครื่องบ่งชี้ถึงศักยภาพของตนเอง”   ตราบใดที่ประสบการณ์ในการทำนายของคุณนั้นยังไม่มากพอ หรือการตอบคำถามของคุณนั้นยังไม่ถูกจริตใครอย่างแท้จริง เพราะการเรียนรู้ในศาสตร์พยากรณ์นั้นไม่มีวันหยุดนิ่ง ยิ่งเก็บประสบการณ์ได้มากเท่าไหร่ ก็จะยกระดับการทำนายทายทักของตนให้สูงขึ้นตามไปด้วยนั่นเอง
พูดถึงเรื่องจุดประสงค์ในการเรียนรู้ศาสตร์พยากรณ์ของแต่ละคนนั้นแตกต่างกัน บางคนต้องการเพียงเพื่อตรวจดวงชะตาให้ตนเอง หรือต้องการเพียงเพื่อจับผิดสามี หรือบางคนต้องการเพียงเพื่ออยากรู้ความรู้สึกนึกคิดของคนอื่นที่มีต่อตน เรื่องหยุมหยิมเหล่านี้ ไม่ใช่วัตถุประสงค์ในการถ่ายทอดเนื้อหาในตำราเล่มนี้ แต่ถ้าคุณจะนำเทคนิคใดในหนังสือไปใช้ คุณต้องตระหนักให้ดีในการที่คุณพยายามล่วงรู้ทุกอย่างจากไพ่แล้วนำมาบงการชีวิตตนเอง และโดยเทคนิควิธีที่ถ่ายทอดไว้ให้ คุณอาจจะไม่ได้อะไรจากการเปิดไพ่เพราะจิตที่ชี้นำ หรือเอาความกังวลใจมาเป็นตัวเปิดไพ่ก็เป็นได้
       จะด้วยเหตุผลใดก็ตาม ไม่ได้หมายความว่า ผู้ทำนายจะต้องตอบทุกคำถามให้ลูกดวงเสมอไป โดยเฉพาะคำถามที่ละเอียดอ่อนต่อความรู้สึกเช่น เรื่องสามีภรรยา สิ่งที่สำคัญที่สุดที่ผู้เขียนพยายามเตือนในทุกเล่มของคู่มือ ตั้งแต่ “คู่มือนักพยากรณ์ไพ่ยิปซี The Tarot Guide” ว่าการที่เราจะทำนายทายทักสิ่งใดออกไป สิ่งที่สำคัญคือให้คำนึงถึงเรื่องกรรม และบาปบุญคุณโทษ ตามหลักพุทธศาสนาในบ้านเรา หรือศาสนาอื่นใดก็ตามที่มีแนวทางคำสอนในเรื่องนี้ว่า ถ้าทำนายไปแล้วทำให้เจ้าชะตาเกิดทุกข์ หรือทำนายไปแล้วส่งผลให้เจ้าชะตาต้องไปดำเนินการอื่นใดเพื่อปรับ เพื่อเปลี่ยนบางสิ่งบางอย่าง ที่เป็นการลงทุน เป็นค่าใช้จ่าย แล้วไม่เกิดผลดีต่อเขา หรือการบอกกล่าวให้เขาทำในสิ่งที่ไม่อยากทำ หรือการทำนายไปแล้วทำให้เขาขัดข้องใจในบางเรื่อง “นั่นถือเป็นการสร้างกรรมให้กับตัวเอง”
หมอดูบางคนไม่สนใจเรื่องละเอียดอ่อนเหล่านี้   ต้องการเพียงแค่ทดสอบความแม่นยำ อ่านไพ่แบบหว่านแหเพื่อให้ได้รับการยอมรับว่าแม่น ทายถูก ทายตรง ซึ่งการทำนายแบบหว่านแห ก็คือการพูดโอกาสที่เป็นไปได้ทุกอย่างออกไป เช่น พอเปิดไพ่ เดอะ ไฮ พรีสเทส (The High Priestess)                   ก็หว่านแหไปเลยว่า คุณเป็นคนที่มีชอบพิธีกรรมไสยศาสตร์ลึกลับพอสมควร คุณเป็นคนที่ฉลาดทันคนรอบข้างเสมอ คุณเชื่อมั่นในศาสนามาก แทบจะยกไว้ในใจตลอดเวลา คุณเป็นคนเก็บความลับเก่ง คุณชอบสิ่งสวยงาม ชอบเสื้อผ้าอาภรณ์ที่มีสไตล์ คุณจะต้องดูดีทุกครั้งที่ออกสู่สังคม แต่คุณจะไม่ค่อยสมหวังเรื่องความรัก และความน่าเกรงขามของคุณจะเป็นอุปสรรคในเรื่องหัวใจ บลา บลา ... พอเปิดไปควบกับไพ่อื่นใด ก็ทายแบบหว่านแหในความหมายไพ่เหล่านั้นเพิ่มเติมไปอีก …
ซึ่งนี่เป็นวิธีการที่หมอดูนิยมทำ เพราะต้องการให้ความหมายไพ่เข้าไปตรงกับเจ้าชะตาสักเรื่อง แต่หากคุณพัฒนาทักษะการอ่านไพ่ของคุณสู่การทำนายระดับสูง คุณจะทราบได้ว่า ไพ่ เดอะ ไฮ พรีสเทส อาจมาเป็นตัวบอกนิสัยของเจ้าชะตา หรืออาจจะบอกถึงบุคคลบางคนที่มีอิทธิพล หรืออาจจะบอกถึงความรู้สึกบางอย่างในห้วงใด วาระใด หรือแม้กระทั่ง การพยายามสื่อถึงสถานการณ์บางสิ่งที่กำลังห้อมล้อมตัวเจ้าชะตาอยู่ก็เป็นได้
สิ่งสำคัญที่ผู้เขียนย้ำเสมอครับว่า ก่อนเปิดดวงชะตาให้ใคร ควรทราบข้อมูลพื้นฐานกันก่อน หลักสามอย่างคือ เพศ อายุ อาชีพ ยกเว้นตอบในคำถามง่าย ๆ ทั่วไปแบบดูดวงฟรีคนละหนึ่งคำถาม อะไรแบบนั้นไม่จำเป็นครับ แต่ถ้าเป็นการเปิดพื้นดวงชะตา สิ่งเหล่านี้สำคัญ เพราะไพ่บางใบ จะบ่งบอกถึงสถานะอาชีพ หรือความเป็นไปบางสิ่งของเจ้าชะตาได้เป็นอย่างดี   และมันจะดีมากกว่าที่คุณจะสุ่มทายว่า “ลูกดวงตอนนี้รับราชการใช่ไหมคะ หรือว่าทำการค้าเกี่ยวกับเครื่องประดับคะ” ซึ่งพอลูกดวงตอบว่า “อ๋อ หนูทำงานบริษัทค่ะ” นั่นจะทำให้หมอดูหน้าแตกและไปต่อได้ยากครับ อย่าเชื่อมั่นว่าการเปิดไพ่ของเราจะสามารถบอกอาชีพได้แม่นยำเพียงนั้น และการหว่านแหก็มีความเสี่ยงกว่าครึ่งที่จะตรงหรือไม่ตรง และหากว่าคุณปรับทัศนคติในการทำนายเสียใหม่ เป็นการให้คำปรึกษาที่ดี เห็นเหตุบางอย่างและสามารถแก้ไขด้วยคำแนะนำเชิงบวกได้ เติมกำลังใจได้ ให้เจ้าชะตาได้พลิกวิกฤตเป็นโอกาส ใช้ความสามารถของเจ้าชะตาเอง นำออกมาได้เต็มที่ ซึ่งคำว่า “ใช้ความสามารถ” นี้ เราย่อมต้องค้นหาศักยภาพของเจ้าชะตาแต่ละคนให้พบ และดึงมันออกมาให้ได้ ให้เขาได้รับรู้ถึงตัวตนของเขา และให้เขาดำเนินชีวิตได้ด้วยความมั่นใจ การพัฒนาวิชาทำนายสู่ระดับนี้ ถือว่าเยี่ยมยุทธ
บางคนชอบทักชอบเตือนเรื่องสุขภาพจากตำราบางเล่ม และก็มักจะพูดไปเรื่อยว่า ต้องระมัดระวังสุขภาพนะ มีเกณฑ์เป็นนั่นเป็นนี่นะ เป็นโรคนั้นโรคนี้นะ ซึ่งการพยายามทำนายโรคภัยไข้เจ็บแบบนี้ เป็นสิ่งที่ไม่สมควรสำหรับหมอดู ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นหน้าที่ของแพทย์ ถ้าคิดว่าเจ้าชะตามีเกณฑ์จะเจ็บป่วยด้วยโรคอะไร สิ่งที่ควรพูดคือ “แนะนำให้ช่วงนี้ไปพบแพทย์ตรวจสุขภาพนะคะ โดยเฉพาะการเจาะเลือดวัดความดัน บางครั้งเราใช้ชีวิตอาจจะหละหลวมบางสิ่ง หรือพักผ่อนไม่เพียงพอ การเจาะเลือดจะวินิจฉัยโรคภัยไข้เจ็บที่แฝงอยู่ได้” ซึ่งเมื่อเทียบกับสิ่งที่หลายท่านพยายามทดสอบความแม่นยำคือ ไปทักเขาตามตำราจับคู่ไพ่บอกโรค อะไรก็ตาม แล้วพูดไปว่า “ให้ระวังโรคเลือด โรคมะเร็ง โรคตับ จะถามหา” แบบนี้แล้ว ถ้าเป็นตัวเราเอง เราอยากเลือกฟังแบบไหนมากกว่ากันครับ
และในกรณีนี้ ถึงแม้เจ้าชะตาจะพยายามเค้นต่อว่า “หมอว่าผมจะป่วยใช่ไหมครับ ผมมีเกณฑ์ป่วยเป็นโรคอะไรครับ” เราก็ไม่จำเป็นต้องต่อความยาวสาวความยืด บอกไปแต่เพียงว่า “มนุษย์ทุกคนมีโรคเป็นองค์ประกอบอยู่ในร่างกายอยู่แล้วค่ะ ที่หมอบอกเพียงเพราะช่วงนี้คุณไม่ได้ไปตรวจสุขภาพเลยและใช้ชีวิตประมาทเกินไป ทั้งการกินและการพักผ่อนนะคะ”   ถามว่าทำไมเราถึงกล้าพูดแบบนี้ ก็เพราะเหตุผลง่าย ๆ ครับคือดูว่า ถ้าเจ้าชะตาตรวจสุขภาพมาก่อนย่อมต้องทราบว่าตนเองเป็นโรคอะไร และเขาจะบอกหมอดูแล้วว่า เขาป่วยด้วยนั้นโรคนี้จริง ใช้จิตวิทยาในการตอบนิดนึง
       อีกกรณีคือ การพยายามทักเรื่องร้ายอื่นใดที่จะเกิดขึ้น โดยอ้างว่าเตือนเจ้าชะตา จะได้ระมัดระวังตัว แต่ในความเป็นจริงแล้ว สิ่งที่หมอดูพึงกระทำ คือ หากเห็นเหตุที่จะเกิดขึ้น ก็ไม่จำเป็นต้องบอกไปตรง ๆ แต่ใช้วิธีแนะนำแนวทางป้องกันหรือแก้ไขให้ถูกต้องเหมาะสม เช่น เห็นเหตุว่า เจ้าชะตาจะประสบอุบัติภัยบางอย่าง ก็ไม่ควรโพล่งทักไปว่า “ช่วงนี้ให้ระวังอุบัติเหตุทางรถยนต์ หรือรถมอเตอร์ไซค์นะคะ” พอเจ้าชะตาได้ฟัง กลายเป็นต้องไปนั่งระแวง หรือจิตตก และด้วยความจิตตกพะวงจนเกินไป ก็อาจทำให้สมองสั่งการแต่เรื่องอุบัติเหตุ อุบัติเหตุ ท่องอยู่แบบนั้น จนสุดท้าย จิตก็นำพาให้การทำงานของร่างกายไปสู่ผลสำเร็จเรื่องนั้นคือ ขับรถไปขนเข้าจริง และเครดิตทั้งหมดก็ตกไปที่หมอดูว่า “ฉันนี่แหละทำนายแม่นยำ เห็นไหมล่ะ ชนจริง”
การพยายามพิสูจน์ความแม่นแบบนี้ คิดว่าเหมาะสมหรือไม่ ในส่วนของผู้เขียนคิดว่าไม่สมควรอย่างยิ่ง ในทางกลับกันคือ การสร้างภาพบวก และให้กำลังใจ ให้สติแก่เจ้าชะตา ยกตัวอย่างว่า “ช่วงนี้อยากให้ฝึกจิต ฝึกสมาธิบ่อย ๆ นะคะ เพราะสภาวะจิตใจถ้าถูกอะไรกระทบ จะเกิดความพะวง จนสมาธิสั้น หมอขอให้นั่งสมาธิทุกวันก่อนไปทำงาน เอาแค่วันละ 5-10 นาทีได้ไหม ทำติดต่อกัน 7 วันพอค่ะ แล้วก็ไม่ว่าจะทำกิจกรรมอะไร ให้มีสติอยู่กับตัวตลอด จะช่วยเพิ่มโอกาส และวาสนาในการพบเจอสิ่งที่ดี เดินออกจากบ้านให้สวดมนต์บทนี้ ก่อนขึ้นรถหรือขับรถ ให้สวดบทนี้ ช่วงนี้อธิฐานปิดวาจา ห้ามคุยโทรศัพท์ขณะขับรถ เพื่อเปิดทรัพย์ เปิดดวงให้ตัวเอง”   ถ้าเราแนะนำไปแบบนี้ เขาจะได้จิตที่เป็นบวกกลับไป ถึงแม้จะมีข้ออ้างว่า ถ้าไม่ขู่เขาก็ไม่ทำ นั่นเป็นความคิดของคุณเองครับ คนเราต่อให้ขู่ว่าจะประสบภัย หรืออะไรใด ๆ ก็ตาม ถ้าแค่เพียงเขาไม่เชื่อคุณเขาก็ไม่ทำ ตราบใดที่เขาเชื่อมั่นและศรัทธาคุณ เขาจะทำตามที่คุณบอกเสมอ และเขาจะเรียกคุณว่าอาจารย์อย่างให้เกียรติเช่นกัน
ที่ยกตัวอย่างเสียยืดยาวนั้น ก็เพียงเพื่ออยากให้เห็นภาพนะครับว่า การศึกษาวิชาการพยากรณ์เพื่อยกระดับการทำนายให้ตนเองนั้น นอกจากจะช่วยให้ผลเชิงบวกแก่เจ้าชะตาแล้ว ตัวนักพยากรณ์เองก็ได้ฝึกและขัดเกลาจิตใจเพิ่มขึ้นมากอีกด้วย สำหรับผู้ที่ศึกษาวิชาจากตำราเล่มนี้ จะได้รับไปแต่เพียงพลังบวกให้กับตนเอง และสามารถเพิ่มพลังบวกให้กับเพื่อนร่วมงาน ญาติสนิท มิตรสหาย หรือคนภายในครอบครัวได้ รวมถึงผู้ที่ทำหน้าที่เป็นหมอดูมืออาชีพ คุณจะสามารถนำพลังบวกไปต่อยอดและส่งต่อให้กับลูกดวงของคุณได้อย่างดีเยี่ยมนั่นเองครับ
       มีนักพยากรณ์หลายคน ที่ใช้ไพ่ยิปซีหรือไพ่ทาโรต์นี้ ในการเชื่อมโยงพลังงานระหว่างตนเองกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์บางอย่าง หรือแม้กระทั่ง การน้อมนำเอาศาสตร์ทำนายไพ่ มาเชื่อมโยงกับคำว่าจิตสัมผัส คือในลักษณะที่ผู้ใช้ เชื่อมั่นว่าสามารถปฏิบัติสมาธิจนสามารถเห็นนิมิต เห็นภาพสถานการณ์บางอย่างเมื่อเปิดไพ่ทำนาย ซึ่งในความเป็นจริงแล้วเทคนิคนี้ก็สามารถฝึกฝนได้แม้คนที่ไม่มีคุณสมบัติพิเศษติดตัวมาแต่อดีตก็ตาม เพราะภาพหน้าไพ่นั้น บ่งบอกเรื่องราวมากมายเกร็ดเล็กเกร็ดน้อย เมื่อผู้ทำนายสามารถประติดประต่อเรื่องราวเป็น ก็สามารถถ่ายทอดคำทำนายออกมาเป็นฉากเป็นตอนได้เช่นเดียวกัน ประกอบกับการฝึกจิต ฝึกสมาธิ ให้มีความเป็นกลาง ปล่อยวางได้มากเท่าไหร่ ผลการทำนายก็จะยิ่งทวีความแม่นยำมากขึ้นเท่านั้น และเทคนิคการทำนายไพ่ระดับผู้เชี่ยวชาญนี้ จะร้อยเรียงไว้ให้ตามลำดับอย่างครบถ้วนในตำราเล่มนี้ครับ

สารบัญ
อารัมภบท : ศรัทธาและความเชื่อในศาสตร์พยากรณ์1
ตอนที่ 1 เกริ่นก่อนอ่าน2
ตอนที่ 2 ศาสตร์เวทมนตร์กับไพ่ทาโรต์ 10
: ภาพตัวอย่างการวางโต๊ะพิธีชำระไพ่ทาโรต์13
ตอนที่ 3 ความเชื่อในการน้อมนำสิ่งศักดิ์สิทธิ์14
ตอนที่ 4 พิธีชำระไพ่ เพิ่มพลัง ล้างอาถรรพ์18
: ภาพประกอบการกำหนดพลังสู่ไพ่ทาโรต์20

ปฐมบท : บทบาทและหน้าที่ของคำถามและคำตอบ27
ตอนที่ 1 หัวใจของการตั้งคำถาม28
ตอนที่ 2 ทำความเข้าใจกับหน้าที่ของคำถาม 33
: ภาพตัวอย่างผังไพ่เซลติกครอส จากเล่ม 135
ตอนที่ 4 การอ่านไพ่แบบ Positive และ Negative37
ตอนที่ 5 การสำรวจพฤติกรรมลูกดวงเพื่อตอบคำถาม42

ปัจฉิมบท : ยกระดับไพ่ทาโรต์สู่การทำนายขั้นสูง47
ตอนที่ 1 ไพ่ยิปซีกับบริบทของจิตสัมผัส48
ตอนที่ 2 ระบบธาตุและพฤติกรรมของไพ่51
: ภาพตารางธาตุทำนาย52
: ความหมายแฝงตามธาตุของไพ่ 4 กลุ่ม53
: การอ่านความหมายตามกำลังธาตุไพ่54
ตอนที่ 3 การใช้ไพ่ตรวจนิสัยใจคอบุคคล67
: ภาพผังทำนายนิสัยใจคอบุคคล67
: ภาพตัวอย่างการทำนายด้วยผังตรวจนิสัยใจคอบุคคล 69
ตอนที่ 4 การใช้ไพ่เพื่อสืบหาอดีตชาติ73
: ภาพผังทำนายอดีตชาติ 76
: ภาพตัวอย่างการทำนายด้วยผังตรวจอดีตชาติ81
ตอนที่ 5 การใช้ไพ่ติดต่อสื่อสารกับดวงวิญญาณ86
: ภาพตัวอย่างจัดวางโต๊ะทำนายไพ่สื่อสารกับดวงวิญญาณ87
ตอนที่ 6 การใช้ไพ่ติดต่อสื่อสารกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์94
: ภาพตัวอย่างการอธิษฐานจิตผูกไพ่กับหินรูนส์97
: ภาพตัวอย่างการอัญเชิญมหาเทพนอร์สเพื่อทำการสื่อสาร98
: ภาพตัวอย่างการเปิดผังตรวจสอบพลังงานสิ่งศักดิ์สิทธิ์99
ตอนที่ 7 การใช้ไพ่ตรวจพลังงานสิ่งศักดิ์สิทธิ์หรือเครื่องราง100
: ภาพผังตรวจสอบพลังงานสิ่งศักดิ์สิทธิ์หรือเครื่องราง100
ตอนที่ 8 การอ่านไพ่เป็นประโยคบอกเล่า105
ตอนที่ 9 การทำนายแบบกราฟเดือนนำทางชีวิต113
: ตัวอย่างการอ่านดวงรายวันจากไพ่ 4 ใบ เพื่อทำกราฟเดือน118
: ภาพตัวอย่างผลทำนายกราฟเดือน148
ตอนที่ 10 การใช้ไพ่ทาโรต์ทายผลการแข่งขัน150
: ภาพผังทำนายผลการแข่งขัน152
ตอนที่ 11 การทำนายผลสำเร็จจากการแก้ไขปัญหาให้ลูกดวง156
: ภาพผังแก้ไขปัญหา157
ตอนที่ 12 การออกแบบผังทำนายด้วยตนเอง158
: ภาพตัวอย่างผังทำนายความรัก จากเล่ม 1161
: ตัวอย่างการออกแบบผังทำนายพื้นดวงชะตาด้วยตนเอง162
: ภาพตัวอย่างการออกแบบผังทำนายพื้นดวงชะตา
(The Basics of Life Spread)163

บทวิพากษ์ : การเชื่อมโยงความหมายไพ่อย่างละเอียดจากดวงปรัศนี165
1. อ่านดวงชะตาเชื่อมโยงธาตุไพ่ - คุณสกุณี166
: พื้นฐานดวงชะตาคุณสกุณีในห้วงนี้169
: เปิดไพ่แก้ไขปัญหาให้คุณสกุณี173

2. อ่านดวงชะตาเชื่อมโยงธาตุไพ่ - คุณธรรม176
: พื้นฐานดวงชะตาคุณธรรมในห้วงนี้178
: เปิดไพ่แก้ไขปัญหาให้คุณธรรม181

3. อ่านดวงชะตาเชื่อมโยงธาตุไพ่ - คุณหนึ่ง184
: พื้นดวงชะตาคุณหนึ่งในห้วงนี้ 186
: เปิดไพ่แก้ไขปัญหาให้คุณหนึ่ง191
: เปิดไพ่ตรวจความสัมพันธ์ของคุณหนึ่งและภรรยา193

4. อ่านดวงชะตาเชื่อมโยงธาตุไพ่ – คุณต้นอ้อย195
: พื้นดวงชะตาคุณต้นอ้อยในห้วงนี้197
: คำแนะนำจากไพ่พื้นดวงชะตา 199
: ภาพเปิดผังตรวจพลังงานสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่คอยช่วยเหลือ 200

เนื้อหารวมทั้งหมด 202 หน้า

หนังสือศาสตร์พยากรณ์ไพ่ยิปซีระดับสูง (The Expert Tarot Guide) เล่มนี้ ถูกเขียนขึ้นเป็นเล่มจบของคู่มือนักพยากรณ์ไพ่ยิปซี และไพ่ยิปซีชี้ทางรวย นั่นหมายความว่า ผู้อ่านจะต้องมีพื้นฐานในการทำนายไพ่ การอ่านหน้าไพ่และการจดจำได้พอสมควรแล้ว จึงจะสามารถทำความเข้าใจต่อยอดจากหนังสือเล่มนี้ได้ เพราะไม่มีการอธิบายความหมายไพ่เหมือนเล่มพื้นฐาน ดังนั้น ถ้าใครไม่มีความรู้ หรือไม่เคยทำนายไพ่แนะนำให้อ่านเป็นเล่มแรกคือ “คู่มือนักพยากรณ์ไพ่ยิปซี The Tarot Guide” ก่อนนะครับ เนื้อหาสำคัญในหนังสือ “ศาสตร์พยากรณ์ไพ่ยิปซีระดับสูง” นั้น จะเป็นรูปแบบความเข้าใจทางด้านจิตวิญญาณ พลังงานธาตุ การอ่านไพ่เชื่อมโยงความหมายและธาตุไพ่ รวมไปถึงการน้อมนำพลังสิ่งศักดิ์สิทธิ์มาใช้ในการทำนาย การสื่อสารกับสิ่งลี้ลับ ที่เรียกได้ว่า อาจจะเป็นเรื่องใหม่สำหรับคนไทยบางกลุ่ม ที่ไม่มีความเข้าใจเรื่องเวทมนตร์ แต่ทั้งหมดที่ถ่ายทอดในหนังสือเล่มนี้ล้วนเป็นเทคนิคที่ชาวต่างชาติเคยใช้มาแล้วแทบทั้งหมด เพียงแต่ผู้เขียนนำมาร้อยเรียง ปรับแต่งให้เหมาะกับวิถีชีวิตและความเชื่อ่ของไทยมากขึ้นนั่นเอง

สำหรับผู้ที่นำหนังสือเล่มนี้ไปอ่าน จะได้รับประสบการณ์เพิ่มเติมจากการอ่านไพ่ในรูปแบบปกติของคุณ และจะถูกจะผิด จะมากจะน้อยอย่างไร ขึ้นอยู่กับเทคนิควิธีที่ถ่ายทอดไว้ให้ และการทำความเข้าใจของคุณนะครับ ผู้เขียนหวังเหลือเกินว่าจะทำให้ผู้อ่านพัฒนาตนเองไปสู่ผู้เชี่ยวชาญในการอ่านไพ่ได้ทุกคนครับ ... ไป๋ล่ง ..."หนังสือศาสตร์ทำนายไพ่ยิปซีระดับสูง The Expert Tarot Guide เป็นเล่มปิดจบของหนังสือคู่มือนักพยากรณ์ไพ่ยิปซี (เล่ม 1) และไพ่ยิปซีชี้ทางรวย (เล่ม 2) เนื้อหาหลักจะเป็นเรื่องการเข้าถึงแก่นแท้ของนักพยากรณ์ และการดึงเอาความสามารถที่หลากหลายจากไพ่ทาโรต์ มาเป็นอุปกรณ์ที่มากกว่าไพ่ทำนาย การทำความเข้าใจความหมายไพ่เมื่อเชื่อมโยงหลักธาตุ รวมถึงใช้ไพ่เพื่อสื่อสารกับสิ่งลี้ลับ หรือไขทุกสิ่งที่อยากรู้"