ลด 30%

E-Book นักเขียนอิสระ ลดสูงสุด 70%(Digital)

อ่านต่อ

“เปลวไฟที่ปลายเทียน” นิยายรักหลากหลายอารมณ์ที่สองภพสองชาติได้มาบรรจบพบกัน และความรู้สึกต่างๆในอดีตชาติได้หวนคืนมา ทั้งแสนรัก ทั้งแสนขมขื่น เศร้า ทุกข์ระทม ที่ต้องขมขื่นทุกข์ระทมก็ด้วยเพราะความรักของหญิงชายคู่หนึ่งที่แสนรักต่อกันอย่างมากมาย หากคนใดคนหนึ่งเฝ้าครวญหา อีกฝ่ายก็เฝ้าคร่ำครวญตามหาภวังค์คำนึงหาแต่รักแท้ หากอีกฝ่ายเจ็บป่วย อีกฝ่ายก็ยังพลอยเจ็บป่วยตามไปด้วย เมื่อคนใดคนหนึ่งมีความทุกข์ อีกฝ่ายก็ทุกข์ตามไปด้วย รักกันมาแต่อดีตชาติจวบจนมาปัจจุบันชาติ หากแต่เป็นความรักที่ไม่มีโอกาสได้พบเจอตัวตนกันจริงๆ หรือแม้เพียงเงาก็ยังไม่มีโอกาสนั่น พบเจอกันเพียงในความฝัน หรือได้พูดคุยได้เห็นหน้ากันเพียงทางไลน์เท่านั้น และในความฝันของทั้งสองได้สะท้อนไปถึงเหตุการณ์ในอดีตชาติที่ทั้งสองต่างมีทั้งความรักและความขมขื่น จนต้องมีวลีเด็ดเกิดขึ้นมาในภพชาติใหม่อยู่ในเรื่องที่ว่า รักออนไลน์ กาลครั้งหนึ่ง จีบใครก็ไม่รู้ รักใครก็ไม่รู้ อยากกอดใครก็ไม่รู้ อยากหอมแก้มใครก็ไม่รู้ อยากแกล้งใครก็ไม่รู้ หึงหวงใครก็ไม่รู้ งอนใครก็ไม่รู้ เฝ้าหวังดีใครก็ไม่รู้ เฝ้ารอคอยใครก็ไม่รู้ เฝ้าคิดถึงใครก็ไม่รู้ สุดท้ายก็ต้องมาอกหักจากใครก็ไม่รู้!!!
คงมีสงสัยกันแล้วสินะคะ ว่าสรุป “เปลวไฟที่ปลายเทียน” เป็นนิยายแนวใดกันแน่ ปัจจุบันหรือนิยายย้อนยุคกันแน่ อันนี้ขอบอกตามตรงเลยค่ะ สองภพสองชาติที่ได้มาบรรจบพบเจอกันค่ะ และบางท่านอาจสงสัยว่า ไม่เคยพบเจอตัวตนจริงๆกัน แม้เพียงเงา และทั้งสองได้มารู้จักกันได้อย่างไร? ค่ะ ทั้งสองพบเจอกันทางออนไลน์ ได้พูดคุย ได้เห็นหน้ากันก็เพียงทางไลน์ แต่ที่ไม่มีโอกาสบุญวาสนาได้พบกันแม้เพียงเงานั่นก็ด้วยเพราะคำอธิษฐานของคุณดาวเรืองหรือมะปรางนักข่าวสาวสวยในชาติปัจจุบันนั่นเอง ที่ก่อนเจ้าหล่อนจะตัดสินใจใช้มีดแทงตัวเองจนตายไปเสียต่อหน้าต่อตาคุณหลวงกีรเดชในอดีตชาติ
“หากชาติหน้ามีจริง น้องก็จะไม่ขอพบเจอคุณพี่แม้เพียงเงา” และก็เป็นไปดั่งคำอธิษฐานของคุณดาวเรืองทั้งสิ้น แม้ทั้งสองจะมีความรักที่มั่นคง และปรารถนาได้พบเจอตัวตนจริงกันมากสักเพียงใดก็ยังไม่มีวาสนาได้พบกันแม้เพียงเงา
ฝากด้วยนะคะแฟนๆนิยายทุกๆท่าน ด้วยความปรารถนาดีจากใจนักเขียน “วริษฐา”