นี่คือบทเริ่มต้นเเห่งการผจญภัยครั้งใหญ่ เมื่อจอมพราน "รพินทร์ ไพววัลย์" รับเป็นมัคคุเทศก์นำทางให้กับคณะนายจ้าง อันมี "ม.ร.ว.เชษฐา วราฤทธิ์" , "ม.ร.ว.หญิงดาริน วราฤทธิ์" เเละ "พ.ท.ไชยยันต์ อนันตรัย" เพื่อตามหา "พรานชด" ม.ร.ว.อนุชา วราฤทธิ์ น้องชายที่หายสาบสูญไปกับ "การเเสวงหาขุมทรัพย์พระอุมาเทวี" จอมมัคคุเทศก์พร้อมสี่พรานคู่ใจ "บุญคำ" , "จัน" , "เกิด" , "เส่ย" ร่วมด้วย "คะหยิ่น" เเห่งบ้านหล่มช้าง เเละ "เเงซาย" ..บุรุษผู้ไม่ประจักษ์ที่มา พาคณะนายจ้าง สู่ดินเเดนอันไม่เคยปรากฏในภูมิศาสตร์โลก..

    ทุกอณูของผืนป่า ทุกอย่างก้าวบนเส้นทางดงดิบ ล้วนมีสิ่งลึกลับซ่อนเร้น ราวกับดวงตามหากาฬที่หมายจ้องจะประจญประจัญอยู่ตลอดเวลา สิ่งนั้น.. พร้อมที่จะปลิดชีวิตผู้มาเยือนทุกคนลงได้ในบัดดล จะมีสักกี่คนที่กล้าเล่นกับสิ่งที่มองไม่เห็น เเละจะมีอีกสักกี่คนที่ก้าวไปข้างหน้า อย่างไม่ประหวั่นพรั่นพรึง โดยที่ไม่รู้ว่า อะไรจะเกิดขึ้น เมื่อทุกนาทีหมายถึงชีวิต เมื่อทุกขณะก้าวมันหายใจไม่เคยทั่วท้อง! เเละบางคราก็มิกล้าเเม้เเต่จะเผยอเปลือกตาขึ้นมองสิ่งที่อยู่ตรงหน้า นี่คือการผจญไพรอันอลังการ ซึ่งกล่าวกันว่า.. "หากขุนเขาพระศิวะมีจริง หากขุมทรัพย์พระอุมาเทวีไม่ใช่เพียงตำนานเล่าขาน ผู้ที่จะบุกบั่นนำทางไปถึงได้ก็คงมีเเต่ จอมพรานรพินทร์ ราชาเเห่งไพรวัลย์ ผู้เปี่ยมด้วยเเสนยานุภาพ คนนี้คนเดียวเท่านั้น!"