เมื่อถึงวันที่ 14 ตุลาคมของทุกปี ผมรู้สึกไม่สบายใจที่ประวัติศาสตร์เหตุการณ์ในวันนั้นถูกหยิบยกขึ้นมากล่าวซ้ำแล้วซ้ำเล่า และเป็นข้ออ้างต่อการดำรงอยู่ของระบอบประชาธิปไตยไทย สถานีโทรทัศน์แทบทุกช่องเสนอภาพข่าวเฉพาะเหตุการณ์วันนั้น แต่ปะปนไปด้วยภาพของวันที่ 6 ตุลาคม 2519 ซึ่งเป็นคนละเรื่องกัน ถ่ายทอดแบบซ้ำแล้วซ้ำเล่า ก่อให้เกิดความเข้าใจที่ผิดๆ แก่ผู้รับชมหนังสือพิมพ์ตีแผ่คำสัมภาษณ์บรรดาแกนนำนักศึกษาซึ่งส่วนใหญ่เป็นอดีตสมาชิกศูนย์กลางนิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย บางส่วนเคยเป็นคอมมิวนิสต์เคยเข้าป่าดงพงไพร่ หนังสือเล่มเล็กขนาดเหมาะมือที่เรียกว่าพ๊อคเก็ตบุคเล่าบันทึกเหตุกาณ์จากปากคำของผู้เรียกร้องรัฐธรรมนูญในเวลานั้น ขายดิบขายดีและบางเล่มก็พิมพ์ซ้ำแล้วซ้ำเล่าอยู่หลายครั้ง ข้อมูลที่ปรากฎอยู่ก็มีลักษณะเป็นการลอกสืบต่อกันมาโดยมีเค้าโครงจากหนังสือที่ชื่อ "ขบวนการประชาชน" ซึ่งจัดพิมพ์เมื่อพ.ศ.2517 บางเล่มอาจจะเหนือกว่าคนอื่นก็ตรงที่ผู้เขียนมีประสบการณ์ตรง อยู่ในเหตุการณ์วันนั้นและเป็นผู้ที่เรียกตัวเองว่าเป็นคนเดือนตุลาคม ซึ่งอันที่จริงแล้วควรเรียกใหม่ว่าเป็นผู้ชนะหรือฝ่ายชนะถึงจะถูกต้อง ตามความเป็นจริงที่สุด ผู้ชนะคือผู้เขียนประวัติศาสตร์ และแน่นอนว่าประวัติศาสตร์ของผู้ชนะ ย่อมเข้าข้างฝ่ายตนมากกว่าฝ่ายศัตรูผู้พ่ายแพ้ ด้วยเหตุนี้ประวัติศาสตร์ของผู้พ่ายแพ้จึงปรากฎอยู่เพียงน้อยนิดบนแผงหนังสือหรือแทบจะไม่มีเลย ที่สำคัญไม่มีนักวิชาการประวัติศาสตร์คนใดที่จะเลือกเข้าข้างหรือเห็นอกเห็นใจผู้พ่ายแพ้
รหัสสินค้า | : 9789749165355 (ปกอ่อน) 120 หน้า |
ขนาด | : 145 x 212 x 5 มม. |
น้ำหนัก | : 125 กรัม |
เนื้อในพิมพ์ | : ขาวดำ |
สำนักพิมพ์ | : เทพมนตรี ลิมปพยอม |
เดือนปีที่พิมพ์ | : 2003 |