หนังสือ "ใครอยากผอม จงเลิกจำกัดแคลอรีซะ" โดยคุณหมอชาวญี่ปุ่น "มาสุเอะ ทาเคชิ" เล่มนี้ ได้นำเสนอวิธีการลดน้ำหนักรูปแบบใหม่ที่ค้านความเชื่อเดิม ๆ ของเราแบบแทบจะสุดโต่ง เป็นวิธีลดน้ำหนักแบบ "กินไป ผอมไป" โดยที่ไม่ต้องอดกินสิ่งที่ชอบ และไม่ต้องจำกัดแคลอรี เงื่อนไขมีอยู่นิดเดียว คือขอแค่เลือกให้ถูกว่าควรกินสิ่งไหน กินตอนไหน และกินอย่างไร เสริมนิดหน่อย ด้วยจังหวะเวลาที่เหมาะสมของการออกกำลังกายและการพักผ่อน

    ซึ่งแน่นอนว่า วิธีลดน้ำหนักแบบกินไปผอมไปนั้นได้ผลจริง ไม่ว่าจะน้ำหนักที่ลดลง รอบเอว ที่ลดลง สุขภาพโดยรวมดีขึ้น ที่สำคัญ น้ำหนักไม่เด้งคืนกลับมา การันตีผลลัพธ์จากตัวคุณหมอเองที่ใช้วิธีการนี้ รวมถึงคนไข้ของคุณหมอที่คุณหมอแนะนำมาตลอดกว่า 20 ปี เลิกโทษตัวเองว่าไม่มีความมุ่งมั่นพอ น้ำหนักจึงไม่ลดลง เลิกเครียดเลิกกดดัน เพราะความเครียดจะทำให้เรายิ่งห่างไกลจากผลลัพธ์ที่ต้องการ มา Enjoy Eating ให้ถูกวิธี แล้วมีสุขภาพที่ดีไปพร้อมกัน!

บทนำ เปลี่ยน "การไดเอ็ตแบบไม่กิน" เป็น "การไดเอ็ตแบบกินไปผอมไป"
- คิดไหมว่า ถ้าอยากผอมก็ต้องยอมอดของที่อยากกินเสมอ
- ไม่ต้องอดทน ไม่รีบาวด์ "กฎ 7 ข้อ" ของการไดเอ็ตแบบกินก็ไม่อ้วน
- พยายามไม่เครียด โดยคิดว่า "ทำวิธีไหนได้เมื่อไรก็ค่อยทำ"

บทที่ 1 สิ่งสำคัญในการไดเอ็ตแบบใหม่ คือ "การประหยัดอินซูลิน"
- ฮอร์โมนที่ไม่รู้จักกันมาก่อนกับกลไกการไดเอ็ต
- ระหว่างไดเอ็ต ควรกินอาหารไขมันต่ำ หรืออาหารพร่องแป้ง
- ระหว่างคนที่กินมื้อเช้ากับไม่กินมื้อเช้า ใครจะผอม
ฯลฯ

บทที่ 2 กินตอนไหนและอย่างไรคือกุญแจสำคัญ ในการไดเอ็ต
- คำนึงถึง "วิธีกินไปผอมไป" ดีกว่า "เลี่ยงของที่ไม่กิน"
- 1. วิธีกินอาหารหลัก ต้องพยายามกินอาหารหลักให้น้อยเข้าไว้
- 2. วิธีกินผัก "ผักก่อนสุด" "คาร์บที่หลังสุด"
ฯลฯ

บทที่ 3 แนวคิดเรื่องไดเอ็ตที่พูดกัน แล้วหมอไม่เห็นด้วย
- Q ถ้าต้องการไดเอ็ต ควรกินผักมากๆ ดีกว่าจริงไหม
- Q ถ้าลดทั้งอาหารหลักและกับข้าวแล้วจะไดเอ็ตสำเร็จ
- Q อาหาร GI ต่ำ ดีต่อการไดเอ็ตจริงไหม
ฯลฯ

บทที่ 4 คนที่อยากผอมควรเลือกสิ่งนี้ แล้วเราควรเลือกกินสิ่งไหนดี
- ปลาซึ่งมีประโยชน์ต่อร่างกาย ควรเลือกกินเป็น "มื้อเช้า" หรือ "มื้อเย็น"
- ถ้าราดน้ำสลัด ควรเลือก "น้ำสลัดฮาล์ฟแคลอรี" หรือ "น้ำสลัดซีซาร์"
- ถ้ามองในแง่ไดเอ็ตแล้ว ควรเลือก "น้ำผัก" หรือ "สลัดผัก"
ฯลฯ