"หัวใจไม่หยุดฝัน" นวนิยายเรื่องนี้ตีพิมพ์เมื่อปี 2012 ว่าด้วยเรื่องราวของ "อลัน เคลย์" หนุ่มใหญ่ที่มีอาชีพเป็นที่ปรึกษา เขาเริ่มต้นชีวิตวัยทำงานด้วยการเป็นเซลล์แมนเชิงรุก ขายกันถึงหน้าบ้านลูกค้า ก่อนจะหันเหไปทำงานกับ ชวินน์ บริษัทผลิตจักรยานที่มีสำนักงานอยู่ในชิคาโก วิกฤตชีวิตเริ่มเดินเข้ามาทักทายอลัน เมื่อเขามีเหตุต้องหย่ากับภรรยา และหน้าที่การงานเริ่มเข้าสู่ทางตัน หลังจากบริษัทที่เขาเป็นที่ปรึกษาย้ายฐานการผลิตไปที่จีน อลันแทบจะกลายเป็นคนว่างงาน และไม่สามารถหากระทั่งค่าเทอมให้ลูกสาวที่กำลังเรียนมหาวิทยาลัยได้... นอกเสียจากว่าเขาจะได้งานใหญ่สักชิ้นและปิดดีลได้สำเร็จ
ในวินาทีสุดท้ายที่อลันกำลังจะหมดศรัทธากับทุกสิ่ง เขาได้รับข้อเสนอจากรีไลแอนต์ กลุ่มบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านไอที ให้เขาเดินทางไปที่เมือง ญิดดะฮ์ (เจดดาห์) ประเทศซาอุดิอาระเบีย เพื่อเสนอขาย "โครงสร้างพื้นฐานระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ" ที่จะติดตั้งในนิคมเศรษฐกิจกษัตริย์อับดุลเลาะห์ เมืองขนาดใหญ่ที่กำลังสร้าง และถูกคาดหวังว่าจะเป็นดูไบสอง
อลันตัดสินใจไปตายเอาดาบหน้า การเดินทางไปซาอุดิอาระเบีย เป็นสิ่งที่เขาไม่เคยคิดฝันมาก่อน เขาและทีมงานหวังว่าจะทำให้กษัตริย์ประทับใจกับศักยภาพขององค์กร ด้วยการนำเสนอเทคโนโลยีอันล้ำสมัย การประชุมทางไกลแบบสามมิติ ที่ย่นระยะทางในโลกให้ใกล้เพียงพริบตา... แต่ปัญหาก็คือ อลันแทบไม่รู้อะไรเกี่ยวกับซาอุดิอาระเบียเลย นอกจากสิ่งที่บอกไว้ในหนังสือไกด์บุ๊ค เขาไม่รู้ขนบธรรมเนียม ไม่รู้จักผู้คน และไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามาทำอะไรกลางทะเลทรายแห่งนี้ มิหนำซ้ำ นับวันอลันยิ่งรู้สึกว่าตัวเขาเองเริ่มไร้สมรรถภาพลงไปทุกที ไม่ว่าจะเป็นทางกาย (อลันพบว่ามีเนื้องอกก้อนเบ้อเริ่มตรงคอ) ทางด้านการทำงาน (ไม่มีลูกทีมคนไหนให้ความเคารพเขาเลย) ทางด้านครอบครัว (จนป่านนี้อลันก็ยังหาเงินค่าเทอมให้ลูกไม่ได้) และด้านเกี่ยวกับชีวิต (เขาพบว่าตนเองมักตัดสินใจตื้นเขิน งี่เง่า และผิดพลาดอยู่เสมอ)… ท่ามกลางเมืองและผู้คนแปลกหน้า ท่ามกลางทะเลทรายอันร้อนระอุ อลันได้สูญเสียและเรียนรู้บางอย่าง ที่ทำให้เขากล้าเผชิญหน้ากับโลกที่หมุนเร็วขึ้นใบนี้
"เดฟ เอกเกอร์" นำเสนอความย้อนแยงของเชื้อชาติได้เป็นอย่างดี ในขณะที่ต่างชาติอย่างอลันมอบภาพฉาบฉวยว่าเมืองใหม่แห่งนี้คือดูไบสองที่จะสร้างความเจริญ ความเท่าเทียม และสร้างโอกาสใหม่ให้กับชีวิต ในขณะที่ยูเซฟ คนขับรถชาวเบดูอินที่อลันจ้างไว้กลับมองว่าเมืองนี้ขายฝัน ไม่ได้ทำอะไรไปมากกว่าการปัดทรายในผืนทราย ปัญหาที่อลันพบเจอ เหมือนเป็นเรื่องเล็กๆ เช่น พวกเขาต้องมาพรีเซนต์งานในรูปแบบสามมิติ แต่ไวไฟของเมืองนี้กลับไม่แรงพอ ทำให้การค้นหาสัญญาไวไฟ กลายเป็นสัญลักษณ์ของความขัดแย้งระหว่างความเจริญและก้าวหน้าที่นิคมเศรษฐกิจแห่งนี้ต้องการนำเสนอ กับความล้าหลังและอนุรักษ์นิยม นอกจากนี้เดฟ เอกเกอร์ส ยังเสียดสีคนอเมริกันที่คิดว่าตัวเองรู้ทุกอย่างในโลก แต่จริงๆ แล้วพวกเขากลับไม่รู้อะไรเลย เสียดสีความเป็นโลกาภิวัฒน์ ว่าการที่โลกมันแคบขึ้นนั้น จริงๆ แล้วมันส่งผลกระทบต่อชีวิตอย่างมีนัยยะสำคัญอย่างไร
นวนิยายเรื่องนี้ได้รับการสร้างเป็นภาพยนตร์ โดย "ทอม ทีคแวร์" ผู้กำกับ Cloud Atlas และ "ทอม แฮงค์" รับบทเป็น อลัน เคลย์ ตัวละครเอกของเรื่อง กำหนดการฉายของภาพยนตร์คือ 16 มิถุนายน 2559
ISBN | : 9786168093122 (ปกอ่อน) 332 หน้า |
ขนาด | : 140 x 207 x 19 มม. |
น้ำหนัก | : 400 กรัม |
เนื้อในพิมพ์ | : ขาวดำ |
ชนิดกระดาษ | : กระดาษถนอมสายตา |
สำนักพิมพ์ | : เลเจ้นด์ บุ๊คส์, บจก. |
เดือนปีที่พิมพ์ | : 9/2015 |
ชื่อเรื่องต้นฉบับ | : A Hologram for The King |
สำนักพิมพ์ต้นฉบับ | : The Wiley Agency (UK) Ltd |